บุ๋ม ปนัดดา เฉลยแล้ว ดารายืมเงิน พร้อมเผยความรู้สึก ต้องยกมือไหว้ขอเงินคืน

Author:

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ทางด้านพิธีกรชื่อดังอย่าง บุ๋ม ปนัดดา ได้ถูกยืมเงินไม่ยอมคืนจนต้องยกมือไหว้ ล่าสุด บุ๋ม ได้ออกมาเผยว่า มีคนในวงการยืมเงิน 5 หมื่น ซึ่งตอนนี้ได้คืนครบแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่คนเดียวกับที่เป็นข่าวดัง โดยบอกว่า “ประกาศไม่ให้ใครยืมเงินแล้ว

ไม่ให้ยืมแล้วค่ะ (ยิ้ม) ขนาดออกข่าวไปแล้วทุกวันนี้ก็ยังมีส่งข้อความมาจะขอยืมเงิน บางทีความขี้สงสารของเรามันก็เป็นปัญหาอย่างอื่น เวลาที่เราช่วยซื้อของไปกลายเป็นว่าทำให้เขาต้องมาขายของเราเรื่อย ๆ แล้วเราก็มองว่าถ้าเขาไม่พยายามจะต่อสู้ดิ้นรน พูดตรง ๆ นะ

ว่าเขาก็จะกลายเป็นขอทานคนหนึ่ง เราไม่อยากสอนเขาให้เป็นแบบนั้น บางทีไม่ต้องเปลี่ยนที่เขาหรอก เปลี่ยนที่ตัวเรานี่แหละที่เป็นคนใจอ่อน เลยรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ทางเดียวที่ทำได้คือบล็อก พอบล็อกปุ๊บก็เห็นเขาใช้ชีวิตได้เนี่ย คนอาจจะเห็นว่าเรารวย ถ้าเปรียบเทียบกับ

นักการเมืองหลาย ๆ คน ดิฉันไม่ได้รวยนะ แต่ดิฉันรวยน้ำใจ เพราะล่าสุดมีโปรเจกต์ใหม่ขึ้น เมื่อคืนนี้เราตัดสินใจหยุดครัวสดที่หน้า สตง. แต่เราไม่ได้หยุดการแจกอาหารเหมือนเดิม แล้วเราทำอย่างไร เนื่องจากว่าเดือนกว่าที่ผ่านมามีการปิดถนนและหลาย ๆ พื้นที่ตรงบริเวณ

ของตึก สตง. ทำให้ร้านค้าหลาย ๆ ร้านไม่สามารถค้าขายได้ เขาได้รับผลกระทบ ทางองค์กรทำดีของเราเลยยินดีที่จะอุดหนุนและสนับสนุนพ่อค้าแม่ขายที่อยู่ในบริเวณนั้นได้มีรายได้ต่อไป ด้วยการที่เราไปเหมาเขาบ้าง ร้านนั้นบ้างร้านนี้บ้างเพื่อให้มีรายได้หมุนเวียนกันไป

แล้วก็เอามาแจกเจ้าหน้าที่ แต่ต้องเป็นของที่สะอาดและมีคุณภาพ เราคิดถึงทุกคนรอบด้านก็เลยทำโปรเจกต์ใหม่อันนี้ขึ้นมา นอกจากชาวเน็ตมายืมเงินแล้ว คนในวงการยังมายืมด้วย แต่คนในวงการตอนนี้ไม่กล้าแล้วค่ะ หลังจากที่เรายกมือไหว้ทวงออกสื่อไป พอทวงก็ได้คืนเลย

หลังจากหายไปหลายปี แต่ต้องบอกก่อนว่าคนที่ยืมเราไปห้าหมื่นที่พูดออกรายการช่อง 9 เขาคืนหมดแล้ว แล้วก็ไม่ใช่คนที่เป็นข่าวดัง ๆ ด้วย คนละคนกัน ส่วนคนนั้นที่เป็นข่าวดัง ๆ ไม่เคยมายืมเงินเรา ไม่ได้อยู่แวดวงเดียวกัน แล้วเราก็ไม่ได้มีให้ยืมมากขนาดนั้นด้วย”

ถามว่ารู้สึกยังไงที่ต้องมานั่งยกมือไหว้ขอเงินคืน คือในฐานะเจ้าหนี้คนหนึ่งก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน จริง ๆ แล้วลูกหนี้ต่างหากที่ควรจะมาขอผ่อนผันกับเราดี ๆ แต่ในเมื่อโลกมันเปลี่ยนไป ลูกหนี้แกร่งขึ้น (หัวเราะ) ยังไงก็ตามอยากพูดจากใจของคนที่เคยให้ยืมตังค์ ไม่ใช่ว่าเพราะเรารวย

แต่เพราะเราเห็นใจ เราสามารถช่วยได้ รู้สึกว่าสิ่งนี้คุณจะสามารถหายใจต่อได้ แต่เมื่อคุณหายใจต่อได้แล้วควรจะคืนเงิน เพื่อให้คุณได้ต่อลมหายใจต่อไปของคุณได้อีก เพราะไม่แน่อนาคตคุณอาจจะลำบากอีก แต่ว่าก็อยากจะยืนยันผ่านสื่อตรงนี้เลยว่า ดิฉันมีลูกเยอะมากค่ะ อีกอย่างคือ

ต้องทำโปรเจกต์ใหญ่ก็คือมูลนิธิองค์กรทำดี ที่ รังสิต คลอง 8 ไม่มีให้ยืมแล้วค่ะ มีแต่ลงพื้นที่หมดเลย